เมนู

เกิดขึ้น เผาเสียแล้วด้วยไฟคือญาณ มุนีนั้นเป็นผู้พ้นขาด ไม่เกี่ยวข้อง
ด้วยทิฏฐิทั้งหลาย ย่อมเป็นผู้มีจิตปราศจากแดนกิเลสอยู่. คำว่า เป็นธีรชน
คือเป็นผู้มีปัญญาเครื่องทรงจำ เป็นบัณฑิต มีปัญญา มีปัญญาเครื่อง
ตรัสรู้ มีญาณ มีปัญญาแจ่มแจ้ง มีปัญญาเครื่องทำลายกิเลส เพราะ
ฉะนั้น จึงชื่อว่า มุนีนั้นเป็นธีรชน พ้นขาดแล้วจากทิฏฐิทั้งหลาย.

ว่าด้วยเหตุที่ติเตียนมี 2 อย่าง


[695] ชื่อว่า ความติด ในคำว่า ไม่เป็นผู้ติเตียนตน ย่อม
ติดในโลก
ได้แก่ความติด 2 อย่าง คือความติดด้วยตัณหา 1 ความติด
ด้วยทิฏฐิ 1 ฯลฯ นี้ชื่อว่าความติดตัวตัณหา ฯลฯ นี้ชื่อว่าความติด
ด้วยทิฏฐิ มุนีนั้นละความติดด้วยตัณหา สละคืนความติดด้วยทิฏฐิแล้ว
เพราะละความติดด้วยตัณหา สละคืนความติดด้วยทิฏฐิ จึงเป็นผู้อันตัณหา
และทิฏฐิไม่เข้าไปติด ย่อมไม่ติด ไม่เปื้อน ไม่เข้าไปติด ในอบายโลก
มนุษยโลก เทวโลก ขันธโลก ธาตุโลก อายตนโลก คือเป็นผู้อันตัณหา
และทิฏฐิไม่ติด ไม่เปื้อน ไม่เข้าไปติด ออก สลัดออก พ้นขาด ไม่
เกี่ยวข้องแล้ว เป็นผู้มีจิตปราศจากเขตแดนกิเลสอยู่ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า
ย่อมไม่ติดในโลก. คำว่า ไม่เป็นผู้ติเตียนตน ความว่า บุคคลย่อมติเตียน
ได้ด้วยเหตุ 2 อย่าง คือเพราะกระทำอย่างหนึ่ง เพราะไม่การทำอย่างหนึ่ง
บุคคลย่อมติเตียนตนเพราะกระทำและเพราะไม่กระทำอย่างไร บุคคลย่อม
ติเตียนตนได้ว่า เราทำกายทุจริต เราไม่ทำกายสุจริต เราทำวจีทุจริต
เราไม่ทำวจีสุจริต เราทำมโนทุจริต เราไม่ทำมโนสุจริ เราทำปาณาติบาต
ฯลฯ เราทำมิจฉาทิฏฐิ เราไม่ทำสัมมาทิฏฐิ บุคคลย่อมติเตียนตนเพราะ